การพบกันระหว่าง นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา ตลอดช่วง 5–10 ปีหลังถือเป็นการเจอกันที่สูสีและน่าจับตามอง เพราะทั้งสองทีมต่างก็ผลัดกันแพ้ชนะอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีมใดที่เหนือกว่ากันชัดเจน โดยใน 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิลสามารถเอาชนะไปได้ 3 ครั้ง ส่วนแอสตันวิลลาก็เก็บชัยชนะไปได้ 2 นัด โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน แอสตันวิลลาเป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะด้วยสกอร์ขาดลอย ทำให้แฟนบอลจำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามว่า “วิลล่าอาจจะกลายเป็นของแสลงของนิวคาสเซิลแล้วหรือไม่” อย่างไรก็ตาม เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงที่ทีมสาลิกาดงเล่นในบ้าน พวกเขามักโชว์ฟอร์มได้ดีและยิงประตูได้หลายลูก โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับวิลลา จึงเชื่อได้เลยว่าการเจอกันครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่สูสี และไม่มีใครยอมใครแน่นอน ทั้งเรื่องประวัติการเจอกันที่ใกล้เคียงกันและฟอร์มโดยรวมในฤดูกาลนี้ ต่างก็ทำให้แมตช์นี้น่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอลที่ติดตามบอลอังกฤษเป็นประจำ
นักเตะตัวจริงและสภาพความพร้อม
ความพร้อมของทีมก่อนเกม นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดผลการแข่งขัน โดยทางฝั่งนิวคาสเซิลยังคงมีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บอยู่หลายราย โดยเฉพาะในแนวรับที่ต้องขาดตัวหลักอย่างโบตมันและแดน เบิร์น ขณะที่แดนกลางก็ยังไม่สามารถใช้งานโจ วิลล็อคได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงมีตัวรุกฟอร์มดีอย่างอเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน และมิเกล อัลมิรอน ที่พร้อมล่าตาข่าย ขณะที่แอสตันวิลลาเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะพวกเขาต้องรอเช็คความฟิตของดิเอโก้ คาร์ลอสและจอห์น แม็คกินน์ แต่ข่าวดีคือแนวรุกยังอยู่กันครบ ทั้งโอลลี่ วัตกินส์, เลออน เบลีย์ และดั๊กลาส ลุยซ์ ที่เป็นกำลังหลักของทีมในฤดูกาลนี้ ซึ่งถ้าทั้งสองทีมส่งผู้เล่นหลักลงสนามได้ครบ ก็รับประกันได้เลยว่าเกมนี้จะเข้มข้นตลอด 90 นาทีอย่างแน่นอน
จุดแข็ง-จุดอ่อน และแท็กติกน่าสนใจ
เมื่อพูดถึงแท็กติกในการแข่งขัน นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน นิวคาสเซิลของเอ็ดดี้ ฮาว เน้นการเพรสซิ่งสูงและความเร็วของปีก โดยให้ความสำคัญกับเกมริมเส้นที่สามารถเจาะแนวรับคู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่แดนกลางจะใช้พละกำลังและความเร็วในการปะทะและตัดบอลกลับมาให้ได้เร็วที่สุด จุดแข็งของพวกเขาอยู่ที่การเล่นเกมในบ้านที่ดุดันและเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่ช่วยสร้างพลังให้ผู้เล่น ในทางกลับกัน แอสตันวิลลาภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี จะเน้นการครองบอลอย่างเป็นระบบ และใช้การต่อบอลสั้นสลับยาวเพื่อเจาะแนวรับคู่แข่ง จุดเด่นของวิลลาคือการเล่นลูกตั้งเตะและการสวนกลับที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่แนวรับของคู่แข่งเสียสมดุล ซึ่งจะเป็นการดวลกันระหว่างความเร็วกับความนิ่ง และกลยุทธ์ใครจะเหนือกว่าในวันแข่งจริง
ราคาต่อรองและทำนายผ
เมื่อพูดถึงเกม นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา ในแง่มุมของการพนันหรือการคาดการณ์ผลการแข่งขัน จะเห็นได้ว่าราคาต่อรองในตลาดหลายแห่งมองว่านี่คือเกมที่สูสีที่สุดคู่หนึ่งในสัปดาห์ โดยเจ้ามือส่วนใหญ่เปิดราคาที่ “เสมอ” หรือให้นิวคาสเซิลต่อเพียงเล็กน้อยเมื่อลงเล่นในบ้าน เนื่องจากผลงานในบ้านของนิวคาสเซิลนั้นแข็งแกร่งมากในฤดูกาลนี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าแอสตันวิลลาเองก็เป็นหนึ่งในทีมเยือนที่เก็บคะแนนได้น่าประทับใจ การทำนายผลในเกมนี้จึงอาจไม่ง่ายนัก แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าผลจะออกเสมอ หรือมีโอกาสที่หนึ่งในทีมจะเฉือนชนะเพียงประตูเดียว ซึ่งหากดูจากสภาพทีมและผลงานช่วงหลัง ก็อาจบอกได้ว่าเกมนี้น่าจะตัดสินกันที่ความเฉียบคมในแดนหน้าและความผิดพลาดเล็กๆ ในแนวรับเท่านั้น
คำถามที่แฟนบอลมักถาม
แฟนบอลที่ติดตามเกม นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา มักจะมีคำถามที่น่าสนใจอยู่เสมอ เช่นว่า ทีมไหนมีสถิติชนะมากกว่ากัน หรือเกมนี้จะถ่ายทอดสดช่องไหน? คำตอบก็คือ ทั้งสองทีมมีสถิติการเจอกันที่ใกล้เคียงกันมาก และไม่มีทีมใดที่เหนือกว่าอีกฝ่ายชัดเจน ส่วนการถ่ายทอดสดนั้นขึ้นอยู่กับช่องทางในประเทศ โดยแฟนบอลไทยสามารถติดตามผ่านช่องทางที่ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีกเป็นประจำได้ นอกจากนี้อีกคำถามหนึ่งที่เจอบ่อยคือ ใครคือนักเตะที่น่าจับตามอง? ซึ่งคำตอบนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ชื่ออย่างอิซัค, กอร์ดอน, วัตกินส์ และเบลีย์ ต่างก็อยู่ในฟอร์มที่ดี และอาจสร้างความแตกต่างให้เกมนี้ได้ในพริบตา น้ํามันงาดํา สรรพคุณ
บทสรุปสุดท้าย
บทสรุปของการเจอกันในศึก นิวคาสเซิล พบ แอสตันวิลลา คือเกมนี้เป็นหนึ่งในคู่ที่น่าดูมากที่สุดของสัปดาห์ เพราะทั้งสองทีมต่างก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการจบอันดับสูงในตารางและคว้าตั๋วไปเล่นบอลยุโรป ไม่ว่าจะเป็นแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือยูโรป้า ลีกก็ตาม เกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสามแต้ม แต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ความมั่นใจ และเส้นทางในอนาคตของทั้งสองสโมสร ผู้ชมทั่วโลกจึงต่างเฝ้ารอดูว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันที่เดิมพันสูงครั้งนี้ และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แฟนบอลทั้งสองฝั่งก็ควรภาคภูมิใจในผลงานของทีมตัวเองที่เดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้